สื่อมวลชนจีนรายงานเมื่อ 9 มิถุนายน 2568 ว่า รัฐบาลจีนเริ่มใช้มาตรการวีซ่าฟรี หรือการที่ผู้ถือหนังสือเดินทาง สามารถเดินทางเข้าจีนได้โดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้า กับบุคคลจาก 4 ประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย โอมาน คูเวต และบาห์เรน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายขยายกลุ่มประเทศที่เป็นมิตรกับจีน โดยมาตรการนี้จะเริ่มใช้ระหว่าง 9 มิถุนายน 2568 ถึง 8 มิถุนายน 2569 ครอบคลุมผู้ที่เดินทางไปจีนเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจ และเยี่ยมครอบครัว โดยจะพำนักอยู่ในจีนไม่เกิน 30 วัน
มาตรการดังกล่าวจะส่งเสริมนโยบายพัฒนาความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ก่อนหน้านี้ จีนใช้มาตรการวีซ่าฟรีกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์ตั้งแต่ปี 2562 เท่ากับว่าปัจจุบัน ประชาชนจากประเทศกลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council-GCC) สามารถเดินทางไปจีนได้โดยไม่ต้องของวีซ่าล่วงหน้า ทั้งนี้ สื่อมวลชนระบุว่าความคืบหน้าครั้งนี้เป็นผลจากการหารือระหว่างผู้แทนระดับสูงของจีนกับ GCC และอาเซียนเมื่อปลายพฤษภาคม 2568 ที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นโอกาสให้ผู้แทนฝ่ายจีนและ GCC ได้หารือกันและบรรลุข้อตกลงที่จะลดอุปสรรคในการเดินทางระหว่างประเทศ โดยจีนเชื่อว่านโยบายวีซ่าฟรีจะส่งเสริมการทำธุรกิจ การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน
จีนมีแนวโน้มจะใช้นโยบายวีซ่าฟรีเพื่อพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยกลุ่มประเทศที่คาดว่าจะสามารถเดินทางไปจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า ได้แก่ กลุ่มประเทศในละตินอเมริกาและแคริเบียน (LAC countries) ซึ่งปัจจุบันพลเรือนจากบราซิล อาร์เจนตินา ชิลี เปรู และอูรุกวัย ไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปจีนแล้ว เริ่มตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2568 ถึง 31 พฤษภาคม 2569 ซึ่งเป็นผลจากการประชุมระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศดังกล่าวเมื่อกลาง พฤษภาคม 2568 นอกจากนี้ จีนประกาศว่าพร้อมจะขยายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนให้สะดวกสบายและตอบสนองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากขึ้นต่อไป ส่วนหนึ่งเพื่อทำให้ประชาคมระหว่างประเทศได้เดินทางไปจีนและมีประสบการณ์ที่ดีเกี่ยวกับจีน ทั้งด้านความหลากหลายและการพัฒนา
ที่ผ่านมา มาตรการวีซ่าฟรีทำให้มีพลเรือนและประชาชนจากประเทศต่าง ๆ เดินทางไปจีนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และการดำเนินธุรกิจระหว่างจีนกับต่างประเทศ