สื่อต่างประเทศหลายแห่ง รวมทั้งสื่อเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ขุดคุ้ยอาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชามากขึ้น หลังจากเกาหลีใต้ดำเนินมาตรการเชิงรุกต่อกัมพูชา เพื่อจะนำเหยื่อชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชากลับประเทศ จากเกิดกรณีนักศึกษาเกาหลีใต้ถูกล่อลวง และเสียชีวิตจากการทรมาน โดยสื่อส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่า อาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชามีขนาดใหญ่ และบางแห่งดำเนินการโดยคนจีนที่หนีความผิดมาจากจีน ซึ่งธุรกิจอาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชาถูกเชื่อว่ารัฐบาลมีส่วนรู้เห็น
ข่าวสารที่ตีแผ่ธุรกิจการหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชาจากสื่อเกาหลีใต้ เช่น Chosun Daily เมื่อ 15 ตุลาคม 2568 ระบุว่า สีหนุวิลล์ เป็นแหล่งอาชญากรรมของกลุ่ม “Wench” ที่มีขนาดใหญ่ เมืองนี้เดิมเป็นเมืองท่องเที่ยวและแหล่งกาสิโน มีโรงแรมหรูกว่าสิบแห่ง ต่อมาจีนก็เข้าไปลงทุนโดยรัฐบาลกัมพูชาสนับสนุน จนหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็กลายเป็นศูนย์กลางดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายของคนจีน ซึ่งมีรายงานว่ามีการบังคับใช้แรงงานชาวเกาหลีใต้ เวียดนาม และอินโดนีเซีย
สื่อเกาหลีใต้ยังระบุชื่อนาย Xu Aimin ชาวจีน ที่ถูกจำคุกที่จีน และหลบหนีไปกัมพูชา จนสามารถดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายจนร่ำรวย และลงทุนทำธุรกิจในกัมพูชา เพื่อฟอกเงิน เช่น ธุรกิจโรงแรมหรูในพนมเปญ และเมื่อกันยายน 2568 กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ก็ประกาศอายัดทรัพย์สิน เนื่องจากได้ทำการหลอกลวงชาวอเมริกันทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน จนทำให้เมื่อปี 2567 ชาวอเมริกันถูกหลอกจากธุรกิจออนไลน์จากกัมพูชาไป 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักธุรกิจชาวจีนที่หลอกลวงทางออนไลน์อื่น ๆ ได้แก่ นาย Dong Le Cheng และนาย Shuo Zhi Jiang การวิจัยของ Humanity Research Consultancy (HRC) ระบุว่า กัมพูชาให้สัญชาติกัมพูชากับนักธุรกิจชาวจีนที่ทำธุรกิจหลอกลวงออนไลน์เป็นการแลกเปลี่ยนกับการรับเงิน ทำให้ธุรกิจรายใหญ่ของจีนมีจำนวนมากในกัมพูชา United States Institute of Peace (USIP) ประเมินด้วยว่า กลุ่มอาญากรรมของจีนทำรายได้จากธุรกิจหลอกลวงทางออนไลน์เมื่อปี 2567 ถึง 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 27 ของ GDP กัมพูชา นอกจากนี้ รายงานของ United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC) เมื่อปี 2567 ก็ระบุว่ารัฐบาลกัมพูชามีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อให้การค้ามนุษย์ราบรื่น
สื่อสหรัฐฯ เช่น The New York Times ก็เสนอข่าวสารในเรื่องนี้เช่นกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสื่อเกาหลีใต้ และระบุด้วยว่า ยังมีชาวเกาหลีใต้อีก 79 รายที่สูญหายในกัมพูชา และอีก 60 คน ที่อยู่ในการควบคุมของรัฐบาลกัมพูชา สื่อสหรัฐฯ ดังกล่าวยังเปิดเผยถึงการที่จีนกวาดล้างแหล่งหลอกลวงออนไลน์บริเวณชายแดนในเมียนมา และกัมพูชา เมื่อกุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กัมพูชา ลาว และเมียนมาเป็นแหล่งหลอกลวงทางออนไลน์ รายงานของสหประชาชาติระบุว่าเกาหลีใต้สูญเสียเงินไป 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2566 จากการถูกหลอกลวงทางออนไลน์ในกัมพูชา นอกจากนี้ สื่อยังอ้างผู้อำนวยการปรึกษาด้านความมั่นคงของแห่งชาติของเกาหลีใต้ว่า มีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 1,000 คน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลอกลวงทางออนไลน์ในกัมพูชา ที่มีทั้งหมด 200,000 คน