ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อ 30 เมษายน 2568 แถลงผลงาน เนื่องในโอกาสครบ 100 วันที่สาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 โดยจัดงานฉลองที่รัฐมิชิแกน ในรูปแบบของการรณรงค์หาเสียง ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวปราศรัยผลงานต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 89 นาที สื่อตั้งข้อสังเกตว่าประธานาธิบดีทรัมป์ใช้โอกาสนี้ประกาศความสำเร็จในการดำเนินนโยบาย โดยใช้อำนาจประธานาธิบดีผ่านคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive order)สร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งระดับในประเทศและระดับโลก
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังใช้งานฉลองดังกล่าวโจมตีพรรคเดโมแครตว่า เป็นพรรคการเมืองที่มีแนวคิดซ้ายจัด เป็นคอมมิวนิสต์สุดโต่ง และเป็นภัยคุกคามของสังคมอเมริกัน ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าจะไม่มีอะไรไปขัดขวางการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันได้ ชาวอเมริกันที่เข้าร่วมงานดังกล่าวต่างแสดงออกว่าสนับสนุนนโยบายของผู้นำสหรัฐฯ มีการชูป้ายสนับสนุน เช่น “Make America Great Again”, “Investing in America”, “Jobs! Jobs! Jobs!”, “The Golden Age”, “Buy American, Hire American” และ “The American Dream is Back” ตลอดจนมีการส่งสัญญาณว่าจะสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งในการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2571 ด้วย
การที่ประธานาธิบดีทรัมป์เลือกจัดงานฉลองที่รัฐมิชิแกน เป็นเพราะเป็นรัฐสำคัญสำหรับคะแนนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมเหล็กและรถยนต์ของสหรัฐฯ จึงเป็นพื้นที่ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพราะผู้นำสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวถึงผลงานการส่งกลับผู้อพยพที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในประเทศ โดยใช้อำนาจตามกฎหมาย Alien Enemies Act
ผู้นำสหรัฐฯ ยังใช้โอกาสนี้โจมตีฝ่ายตุลาการบางส่วนที่ขัดขวางนโยบายของรัฐบาลด้วย โดยระบุว่าฝ่ายตุลาการใช้อำนาจโดยมิชอบขัดขวางคำสั่งของประธานาธิบดี ทั้งที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการปกป้องความมั่นคงของชาติและประชาชน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยกตัวอย่างการใช้อำนาจ Alien Enemies Act ส่งกลับอาชญากรชาวเวเนซุเอลาและเอลซัลวาดอร์กลับประเทศ เป็นตัวอย่างผลงานสำคัญของรัฐบาล
สมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงความคิดเห็นต่อกิจกรรมดังกล่าวว่าไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมุมมองของชาวอเมริกันต่อประธานาธิบดีทรัมป์ได้ โดยเฉพาะกลุ่มชาวอเมริกันจำนวนมากที่วิตกว่าผู้นำสหรัฐฯ จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเผชิญภาวะถดถอยจากการทำสงครามการค้า และทำให้นานาชาติไม่เชื่อมั่นในตำแหน่งผู้นำโลก ทั้งนี้ ปัจจุบันผลสำรวจความนิยมในรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ตกต่ำลง โดยผลสำรวจความพึงพอใจของชาวอเมริกันต่อผลงานรัฐบาลในช่วง 100 วันแรก ร้อยละ 53 ไม่พอใจผลงานของรัฐบาล ชาวอเมริกัน ร้อยละ 60 ประเมินว่ารัฐบาลสร้างความเปลี่ยนแปลงโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ และร้อยละ 65 มีมุมมองว่ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคาสินค้าสูงขึ้นได้