อิตาลีเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Ukraine Recovery Conference (URC2025) ประจำปี 2568 ที่กรุงโรมเมื่อ 10-11 กรกฎาคม 2568 เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางเพิ่มคาวมช่วยเหลือด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจแก่ยูเครน เนื่องจากเผชิญสงครามเป็นระยะเวลานาน ทำให้ต้องมีแผนการฟื้นฟูประเทศ ซึ่งต้องมีนานาชาติให้การสนับสนุน โดยการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่ปี 2565
อิตาลีเน้นประเด็นความสำคัญของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการใช้เทคโนโลยีที่สามารถใช้งานได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และทางทหาร (dual-use technology) เนื่องจากมีมุมมองว่ายูเครนจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีรูปแบบดังกล่าวฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งขยายขีดความสามารถด้านการทหารและการป้องกันประเทศด้วย โดยอิตาลีพร้อมส่งเสริมให้บริษัทผู้ผลิตอาวุธในอิตาลีเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยี dual-use ให้ยูเครน
ในการประชุมครั้งนี้ ประเทศยุโรปหลายแห่งแสดงจุดยืนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูความมั่นคงและเศรษฐกิจของยูเครน เช่น สหภาพยุโรปประกาศให้ความช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 1,000 ล้านยูโร และลงนามในความร่วมมือเพื่อการพัฒนานวัตกรรมด้านการทหารระหว่างกันมูลค่า 100 ล้านยูโร โดยมีบริษัท BraveTech เป็นแกนหลักในความร่วมมือดังกล่าว นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาของยุโรป (European Bank for Reconstruction and Development-EBRD) ยังประกาศจะสนับสนุนการพัฒนาด้านพลังงานสะอาดในยูเครนด้วย ด้านเยอรมนีระบุเมื่อ 11 กรกฎาคม 2568 ว่าจะซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศจากสหรัฐฯ หรือระบบ Patriot ให้ยูเครน เพื่อเสริมขีดความสามารถในการป้องกันโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียที่ปัจจุบันเป็นยุทธวิธีโจมตีที่สำคัญ
สหรัฐฯ ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุม Ukraine Recovery Conference เป็นครั้งแรก โดยส่งพลเอก Keith Kellogg ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการรัสเซีย-ยูเครน และวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมและแสดงท่าทีว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนยูเครนด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจต่อไป ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะมีถ้อยแถลงเกี่ยวกับแผนการของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย-ยูเครนใน 14 กรกฎาคม 2568
การประชุมดังกล่าวอาจเป็นจุดเริ่มต้นของประเทศยุโรปที่จะสนับสนุนการฟื้นฟูความมั่นคงและเศรษฐกิจให้ยูเครนในระยะยาว นอกจากนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างสำนักงาน Multinational Force Ukraine เพื่อเป็นศูนย์กลางบัญชาการระหว่างประเทศยุโรปที่กังวลกับการทำสงครามของรัสเซียในประเทศเพื่อนบ้านด้วย เนื่องจากที่ประชุมเห็นพ้องจะตั้งสำนักงานบัญชาการดังกล่าวที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารและติดต่อกับรัฐบาลยูเครนอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการต่อต้านสงครามจากรัสเซีย