การท่องเที่ยวในปี 2568 ของเวียดนามมาแรงมาก แม้ยังไม่ใกล้ความจริงที่ตั้งเป้าหมายจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ 25 ล้านคน แต่การเติบโตของการท่องเที่ยวจากต่างชาติของเวียดนามห้วง 9 เดือนแรกของปี (มกราคม- กันยายน 2568) มีจำนวน 15.40 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากห้วงเดียวกันของปี 2567 ร้อยละ 21.5 โดยมี จีนไปเที่ยวเวียดนามสูงเป็นอันดับ 1 ประมาณ 3.8 ล้านคน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 จากห้วงเดียวกันของปี 2567 รองลงไป ได้แก่ เกาหลีใต้ จำนวน 3.2 ล้านคน ขณะที่ไต้หวันอยู่อันดับ 3
แนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ จะไปเที่ยวเวียดนามก็จะมีมากขึ้น เช่น อินเดีย และญี่ปุ่น ส่วนยุโรป ซึ่ง ได้แก่ รัสเซีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้บริการสายการบินไปเที่ยวที่เวียดนามสถานที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมไปเที่ยวมีทั้งในเมือง และการท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น ที่นครดานัง โฮจิมินห์ ฮานอย และกว๋างนิญ เป็นต้น ซึ่งการท่องเที่ยวทำให้ในห้วง 9 เดือนแรกของปี 2568 สร้างรายได้ให้เวียดนามเพิ่มขึ้น เป็น 2.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มจากห้วงเดียวกันของปี 2567 ร้อยละ 20.5
การท่องเที่ยวของเวียดนามยังไปแรงได้อีก เนื่องจากรัฐบาลจะให้การสนับสนุนต่อเนื่อง และมีแผนชัดเจน เพื่อให้เป็นตัวผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ โดยเวียดนามกำลังดึงดูดการท่องเที่ยวด้วยการใช้นโยบาย world of medical hub แข่งกับไทย และสิงคโปร์ ทั้งนี้ เมื่อกันยายน 2568 รัฐบาลประกาศให้ความสำคัญเรื่องนี้ เป็นอันดับแรกที่จะใช้ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยจะใช้ราคาที่ไม่สูง เพราะจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และมีการฝึกบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ เป็นต้น
เวียดนามตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปี 2568 รายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คาดว่าจะมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มอีกร้อยละ 17.8 ในปี 2576 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายวิสัยทัศน์ของเวียดนาม 2030 ที่จะผลักดันให้เวียดนามเป็นประเทศชั้นนำด้านการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเมืองสำคัญ ๆ โดยฮานอย และนครโฮจิมินห์ จะเป็นศูนย์กลางการแพทย์ชั้นนำของโลก ทั้งเดินทางมาเพื่อรักษาโรค ทำศัลยกรรม หรือการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพด้วยระบบสมุนไพร หรือใช้การเป็นธรรมชาติบำบัด ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ด้วยการรวมไปกับแพ็กเกจการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี เวียดนามยอมรับว่ายังมีอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันไปเพื่อให้ถึงเป้าหมาย เช่น อุปสรรคด้านภาษา มาตรฐานระดับโลกด้านการเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการต้องแข่งขันกับเพื่อนบ้าน เช่น ไทย เพื่อครอบครองส่วนแบ่งตลาดการท่องเที่ยวโลก ซึ่งมีประมาณ 639 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เวียดนามยังมีแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยวที่ชื่อว่า Master Plan on Tourism System for 2021-2030 เพื่อมีเป้าหมายให้เวียดนามเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพภายในปี 2568 และจะใช้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปี 2573 ด้วยการมีนักท่องเที่ยวจำนวน 35 ล้านคน และมีรายได้คิดเป็นร้อยละ 13-14 ของ GDP เวียดนาม