กรณีนักศึกษาชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตจากการถูกทรมาน ใกล้ภูเขา Bokor ในจังหวัดกัมปอต กัมพูชา เพื่อเรียกค่าไถ่ เมื่อ สิงหาคม 2568 ตอกย้ำว่ากัมพูชายังเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เฉพาะอย่างยิ่งการล่อลวงชาวต่างชาติ ไปทำธุรกิจออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ การทรมาน และการเรียกค่าไถ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อมิถุนายน 2568 Amnesty International รายงานว่ากัมพูชาไม่สามารถกวาดล้างศูนย์สแกมเมอร์ทั่วกัมพูชา จำนวน 53 แห่ง ได้ เช่นเดียวกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ที่ระบุว่า กัมพูชาเป็นศูนย์กลางสแกมเมอร์ของโลก
เกาหลีใต้เป็นประเทศล่าสุดที่ประชาชนถูกหลอกลวงไปยังกัมพูชา ซึ่งทำให้กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ประกาศเตือนให้ชาวเกาหลีใต้งด หรือเลื่อนการเดินทางไปกัมพูชา และยกระดับคำเตือนเป็น “คำแนะนำพิเศษ” เพื่อความปลอดภัยในกรุงพนมเปญ รวมทั้งบริเวณสีหนุวิลล์ และภูเขา Bokor โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อ 10 ตุลาคม 2568 รวมทั้งเตือนชาวเกาหลีใต้ให้ระมัดระวังการถูกหลอกลวงให้ไปทำงานที่กัมพูชา ด้วยการชวนเชื่อว่าจะให้ค่าจ้างสูง แต่หลังจากนั้นจะถูกลักพาตัว เพื่อไปเรียกค่าไถ่ หรือบังคับให้ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ด้วยการทรมาน เช่น การใช้เครื่องมือช็อต และใช้เหล็กตีหน้า เป็นต้น
จากกรณีเสียชีวิตจากการถูกทรมานในกัมพูชาของนักศึกษาเกาหลีใต้ ที่เดินทางไปกัมพูชาเมื่อ กรกฎาคม 2568 ประธานาธิบดีอี แจ มย็อง ของเกาหลีใต้ได้สั่งการ เมื่อ 11 ตุลาคม 2568 ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินมาตรการทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบในการดูแลชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา และในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 14 ตุลาคม 2568 ให้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจดำเนินการส่งกลับชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสแกมเมอร์ให้เร็วที่สุด โดยต้องไม่มีปัญหาด้านบุคลากร และงบประมาณ พร้อมทั้งระบุว่าชาวเกาหลีใต้อยู่ในอันดับ 5 หรือ 6 ของเหยื่อต่างชาติที่ถูกหลอกในกัมพูชา
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยังสั่งการให้ตั้ง “Korean desk” ที่กัมพูชา ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำงานร่วมกันโดยตรงกับกัมพูชา เพื่อปกป้องชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ซึ่งอาจถึงระดับการทำบันทึกความเข้าใจร่วมกัน รวมทั้งอาจมีการหารือระหว่างระดับหัวหน้าของหน่วยตำรวจของเกาหลีใต้กับกัมพูชา นอกรอบการประชุม International Police Summit 2025 ที่เกาหลีใต้ ระหว่าง 20-23 ตุลาคม 2568 ทั้งนี้ รูปแบบ“ Korean desk” เพื่อช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ในต่างประเทศ เคยจัดตั้งที่ฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2555 และตามมาด้วยในไทย
ในห้วงมกราคม-สิงหาคม 2568 จำนวนชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวและกักขังในกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด มีจำนวนคดีกว่า 330 คดี เพิ่มจาก 220 คดี จากห้วงเดียวกันของปี 2567 โดยจากสถิติเมื่อปี 2564 มีเพียง 2 คดี และเพิ่มเป็น 11-17 คดี เมื่อปี 2565 และปี 2566 มี 20-21 คดี