

สื่อสหรัฐฯ เมื่อ 30 ตุลาคม 2568 รายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อ 29 ตุลาคม 2568 ซึ่งนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ประกาศว่าที่ประชุมมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ซึ่งเป็นการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปี 2568 พร้อมทั้งประกาศยุติมาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณ หรือ Quantitative Tightening (QT) เพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
การตัดสินใจของ Fed ได้รับการตอบรับเชิงบวก เพราะเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก และแผนการของ Fed ที่เคยระบุว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 จำนวน 3 ครั้ง ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 3.75-4.00 ขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในสภาวะ Government Shutdown หรือภาวะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องหยุดการดำเนินงานชั่วคราว นอกจากนี้ Fed มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อสูงเกินกว่าค่าเป้าหมาย แม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจจะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวได้ในระดับปานกลาง แต่เสี่ยงได้รับผลกระทบต่อราคาพลังงานที่จะปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ประธาน Fed ยังไม่ยืนยันว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งใน ธันวาคม 2568 เนื่องจากต้องมีข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เพียงพอ รวมทั้งพิจารณามติของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ด้วย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC ก็มีความเห็นต่างกันอย่างมากต่อมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความสำคัญต่อทิศทางการลงทุนและบรรยากาศเศรษฐกิจโลก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ อาจทบทวนอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีรายงานว่า ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานลงร้อยละ 0.25 อยู่ที่ระดับร้อยละ 4.25 อย่างไรก็ตาม เมื่อ 31 ตุลาคม 2568 ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 เพื่อให้สอดคล้องกับรายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0.5 ตามการคาดการณ์ของนักลงทุน เนื่องจากญี่ปุ่นจะรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ชัดเจนก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นโยบายของ Fed ส่งผลต่อราคาทองคำ ก่อนหน้านี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากตอบรับข้อมูลที่ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันก็มีความผันผวนเล็กน้อยจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีรายงานว่า ราคาทองคำปรับลดลงเล็กน้อย จากกรณีประธาน Fed ไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในธันวาคม 2568








