![]()

หลังจากการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2568 ประธานาธิบดี Lai Ching-te ของไต้หวัน ประกาศเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2569-2576 เพื่อรับมือกับการข่มขู่และคุกคามจากภายนอก เฉพาะอย่างยิ่งจากจีน โดยประธานาธิบดีไต้หวันระบุว่า ไต้หวันจะไม่ผ่อนปรนหากเป็นเรื่องความมั่นคง พร้อมย้ำว่าไต้หวันไม่ได้ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ หรือต้องเลือกระหว่างการรวมชาติกับการเป็นเอกราช แต่ไต้หวันจะปกป้องไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตย และไม่ตกเป็นของจีน นอกจากนี้ ผู้นำไต้หวันยังส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนไต้หวันเรื่องการซื้อ-ขายอาวุธด้วย
สำหรับการเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันดินแดนดังกล่าเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อป้องกันประเทศมากขึ้น และให้กองทัพไต้หวันมีความพร้อมรับมือกรณีกองทัพจีนโจมตีไต้หวันในปี 2570 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่สหรัฐฯ คาดการณ์ว่าจีนจะโจมตีไต้หวันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการรวมชาติ
ผู้นำไต้หวันระบุว่าความเคลื่อนไหวด้านการทหารของจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งกร้าว รวมทั้งปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อการจารกรรม และการแทรกแซงกิจการภายในจากรัฐบาลจีน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไต้หวันต้องเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม นอกจากนี้ ผู้นำไต้หวันระบุว่าสิ่งที่กังวลที่สุด ไม่ใช่ความเคลื่อนไหวทางการทหารของจีน แต่เป็นการที่ชาวไต้หวันยอมแพ้ ดังนั้น จึงกล่าวย้ำว่าไต้หวันจำเป็นต้องเตรียมพร้อมด้านการทหารและความมั่นคงเพื่อต่อต้านจีน ขณะเดียวกัน ชาวไต้หวันต้องไม่ยอมรับหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ที่จีนเสนอ
สหรัฐฯ มีท่าทีตอบรับการตัดสินใจเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันดินแดนของไต้หวัน โดยนาย Raymond Greene ผู้อำนวยการสถาบันสหรัฐฯ ประจำไต้หวันให้ความเห็นว่าการเพิ่มงบประมาณเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งเสริมความแข็งแกร่งของกองทัพและหน่วยความมั่นคง ตลอดจนเป็นผลดีต่อการสร้าวบรรยากาศสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน ขณะที่ฝ่ายจีนให้ความเห็นคัดค้านโดยระบุว่าการตัดสินใจของรัฐบาลไต้หวันจะนำไต้หวันไปเผชิญหายนะ
ความเคลื่อนไหวของไต้หวันมีขึ้นในห้วงที่จีนและญี่ปุ่นขัดแย้งกันประเด็นความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน จากท่าทีของผู้นำญี่ปุ่นที่แสดงความพร้อมจะใช้กองทัพหากจีนโจมตีไต้หวัน ทำให้จีนไม่พอใจอย่างมาก นอกจากนี้ จีนยังไม่พอใจที่ญี่ปุ่นเดินหน้าติดตั้งระบบขีปนาวุธที่เกาะ Yonaguni ของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากไต้หวัน 110 กิโลเมตร ซึ่งจีนมีมุมมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวด้านการทหารที่อันตรายต่อสันติภาพในภูมิภาค







