รัสเซียเมื่อ 5 พฤษถาคม 2568 รายงานว่า ยูเครนใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ปฏิบัติการโจมตีกรุงมอสโกในช่วงเวลากลางคืนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 4-5 พฤษภาคม 2568 รวมจำนวนการโจมตีครั้งแรกอย่างน้อย 26 ครั้ง และครั้งที่ 2 จำนวนอย่างน้อย 19 ครั้ง การโจมตีดังกล่าวยังไม่รุนแรงหรือทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่สร้างความกังวลด้านความมั่นคงปลอดภัย ส่งผลให้รัสเซียต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยปิดทำการท่าอากาศยานในกรุงมอสโกทั้งหมด 4 แห่ง เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ มีรายงานพบโดรนของยูเครนโจมตีรัสเซียในหลายเมือง เช่น เมือง Penza และ Voronezh
มีรายงานจากสื่อมวลชนตะวันตกว่า รัสเซียยกเลิกการเดินขบวนพาเหรดฉลอง Victory Day ในเมือง Sevastopol ของแคว้นไครเมีย เมื่อ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องจากวิตกกังวลด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีรายงานว่ายูเครนยิงเครื่องบินรบของรัสเซียตกในบริเวณทะเลดำ
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลให้หน่วยความมั่นคงรัสเซียซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมจัดงานฉลองเนื่องใน 9 พฤษภาคม 2568 ที่ตรงกับวันมหาสงครามของผู้รักชาติ หรือ Victory Day หรือ Great Patriotic War ที่จะมีผู้นำต่างประเทศเข้าร่วมด้วย รวมทั้งผู้นำจีนและบราซิล นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้อาจทำให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียต้องทบทวนคำสั่งหยุดยิงชั่วคราวเป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง ตั้งแต่ 8 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้กองทัพและประชาชนได้ร่วมฉลองในวันสำคัญของชาติ โดยรัสเซียจะระงับปฏิบัติการด้านการทหารชั่วคราว
ปัจจุบันยูเครนยังไม่ประกาศว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว ขณะเดียวกันก็เปิดเผยว่ารัสเซียส่งโดรนเข้าไปโจมตีเมืองสำคัญของยูเครนเช่นกัน สำหรับสถานการณ์การสู้รบปัจจุบัน ทั้งรัสเซียและยูเครนยังปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กันต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกของยูเครน มีรายงานว่ายูเครนเริ่มปฏิบัติการโจมตีในภูมิภาค Kursk ของรัสเซียอีกครั้ง และประกาศสามารถยึดพื้นที่บางส่วนได้ รวมทั้งทำลายฐานควบคุมอากาศยานไร้คนขับของรัสเซียในแคว้น Kursk ได้เช่นกัน
ยูเครนเรียกร้องให้ผู้นำรัสเซียขยายระยะเวลาประกาศหยุดยิงจาก 72 ชั่วโมงเป็น 30 วัน เพื่อแสดงความจริงจังที่จะเจรจาสันติภาพกับยูเครน ซึ่งสหรัฐฯ ก็สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม รัสเซียมีแนวโน้มไม่ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ทำให้ผู้นำยูเครนวิจารณ์ว่า ประธานาธิบดีรัสเซียต้องการใช้การหยุดยิงชั่วคราวเป็นระยะเวลาเพียง 72 ชั่วโมงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ต่อนานาชาติและสร้างความชอบธรรมในการร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ และระบุว่า ยูเครนจะไม่รับประกันความปลอดภัยในรัสเซีย เพราะรัสเซียต้องรับผิดชอบความมั่นคงปลอดภัยของอาณาเขตตัวเอง ความขัดแย้งที่ยังคงตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนอาจทำให้บรรยากาศการฉลองเนื่องในวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของรัสเซียไม่ราบรื่น