รัฐบาลอียิปต์เมื่อ 6 ตุลาคม 2568 รายงานผลการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้แทนอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาส ที่โรงแรมหรูริมทะเลแดง ประเทศอียิปต์ โดยการเจรจาเป็นไปในเชิงบวก ทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มกล่าวถึงแนวปฏิบัติร่วมกันเพื่อรักษาบรรยากาศการเจรจา และจะมีการเจรจาระหว่างกันอีกครั้งในวันถัดไป เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอของผู้นำสหรัฐฯ ที่จะให้มีการปล่อยตัวประกัน ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ การทำข้อตกลงหยุดยิง และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
อย่างไรก็ดี ผู้แทนของกลุ่มฮะมาส ได้แก่ นาย Khalil al-Hayya และนาย Zaher Jabarin แสดงความกังวลกับอียิปต์ กาตาร์ และสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวกลางในการเจรจาครั้งนี้ว่า วิตกกับกรณีกองทัพอิสราเอลยังปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาและการปล่อยตัวประกันที่เหลือ ก่อนหน้านี้ นาย Khalil al-Hayya และนาย Zaher Jabarin เคยตกเป็นเป้าหมายโจมตีของกองทัพอิสราเอลระหว่างเดินทางไปประชุมที่กรุงโดฮา กาตาร์ เมื่อ กันยายน 2568
การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นในห้วงครบรอบการโจมตีครั้งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นสงครามครั้งนี้ เมื่อ 7 ตุลาคม 2566 โดยกลุ่มฮะมาสเป็นฝ่ายเริ่มการบุกโจมตีเข้าไปในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอล เพื่อตอบโต้อิสราเอลที่ข่มขู่และคุกคามชาวปาเลสไตน์มาโดยตลอด จากนั้นกองทัพอิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทหารและยืดเยื้อมาถึงจนปัจจุบัน แม้ที่ผ่านมาจะมีการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวและแลกเปลี่ยนตัวประกันหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถลดระดับความชัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่ได้ เนื่องจากผู้นำของทั้ง 2 ฝ่ายมีเป้าหมายด้านการทหารที่ชัดเจน แต่เผชิญแรงกดดันจากนานาชาติมากขึ้น เพราะความขัดแย้งเสี่ยงขยายตัวและส่งผลกระทบระยะยาว
รายงานจำนวนชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตจากสงครามครั้งนี้อยู่ที่ 67,160 ราย ส่วนชาวอิสราเอลอยู่ที่ 1,139 ราย
ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญวนการผลักดันการเจรจาและยื่นข้อเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่าย ตลอดจนสนับสนุนทบาทของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางให้เป็นผู้นำในการรักษาความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาคมากขึ้น ได้ออกมาแสดงความเห็นเชิงบวกต่อความคืบหน้าการเจรจาดังกล่าว พร้อมเน้นย้ำให้ทั้งคู่ขัดแย้งให้ความสำคัญกับเรื่องการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษการเมืองเป็นอันดับแรก เพราะจะเป็นขั้นตอนแรกสู่การสร้างความไว้วางใจและสนับสนุนขั้นตอนอื่น ๆ ที่อาจจะยุ่งยากและมีความซับซ้อนในการดำเนินการ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชื่นชมบทบาทของประเทศอาหรับและตุรกีอย่างมาก ที่โน้มน้าวให้กลุ่มฮะมาสเข้าร่วมการเจรจา
ปัจจุบันสื่อมวลชนสหรัฐฯ ยังให้ความสนใจกรณีนาย Jared Kushner บุตรเขยของประธานาธิบดีทรัมป์ เข้าร่วมทีมเจรจาของสหรัฐฯ ที่มีนาย Steve Witkoff เป็นผู้แทนหลักด้วย โดยจับตามองว่า นาย Kushner จะสั่งสมประสบการณ์ทางการเมืองจากกรณีนี้ หรือใช้ประโยชน์เพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์