![]()

สหภาพยุโรป (EU) เมื่อ 24 ตุลาคม 2568 จัดการประชุมสุดยอด หรือ EU Summit ที่กรุงบรัสเซลล์ เบลเยียม เพื่อกำหนดแนวทางการสนับสนุนด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการทหารแก่ยูเครน โดยมีมติร่วมกันว่า สหภาพยุโรปจะให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและการเงินแก่ยูเครนต่อไปอีก 2 ปี แต่จะชะลอมาตรการอายัดทรัพย์สินของรัสเซียในยุโรปไว้ก่อน เนื่องจากวิตกว่าการอายัดทรัพย์สินรัสเซียที่ปัจจุบันอยู่ในเบลเยียม มูลค่ามากกว่า 140,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 163,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 86 ของทรัพย์สินของรัสเซียในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มแรงกดดันในตอนนี้ อาจส่งผลเสียต่อบรรยากาศด้านความมั่นคงทางการเงินในภูมิภาค
ก่อนหน้านี้ หลายประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและเนโตเสนอให้มีการอายัดทรัพย์สินของรัสเซียในยุโรปเพื่อใช้ในการช่วยเหลือฟื้นฟูยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม หรือที่เรียกว่าเป็น reparations loan หรือหลักประกันจากค่าปฏิกรรมสงคราม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเบลเยียมวิตกว่าการอายัดทรัพย์สินของรัสเซียจะส่งผลให้รัสเซียไม่พอใจและตอบโต้ด้วยมาตรการทางกฎหมายและการเงินเพิ่มเติม ที่จะเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของยุโรป จึงเห็นพ้องกับสมาชิก EU ที่เสนอให้เลื่อนการพิจารณามาตรการดังกล่าวออกไปทบทวนอีกครั้งใน ธันวาคม 2568
สาเหตุที่ทำให้รัฐบาลเบลเยียมวิตกกังวลเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สินของรัสเซียเพื่อไปช่วยเหลือฟื้นฟูยูเครน เพราะทรัพย์สินส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสถาบันการเงิน Euroclear ของเบลเยียม ดังนั้น การดำเนินการต่อทรัพย์สินของรัสเซียอาจส่งผลกระทบต่อสถานะความมั่นคงทางการเงินของสถาบันดังกล่าว และทำให้ต้องมีการสืบสวนกิจการของ Euroclear นอกจากนี้ รัฐบาลเบลเยียมยังไม่มั่นใจกรอบกฎหมายที่จะใช้ในการตรวจสอบและดำเนินการประเด็นดังกล่าว เนื่องจากคณะกรรมาธิการยุโรปยังไม่มีข้อตกลงเรื่องนี้ที่ชัดเจน คาดว่าหลังจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเร่งหารือเพื่อกำหนดกฎหายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว เพื่อให้การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียมีความคืบหน้า และสามารถให้ประเทศยุโรปใช้ทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือยูเครนได้ เพราะแนวทางนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการลดภาระงบประมาณช่วยเหลือยูเครนของประเทศยุโรปด้วย
ประธานาธิบดียูเครนมีท่าทียินดีที่สหภาพยุโรปให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือยูเครนต่อไปในระยะ 2 ปี แต่เสนอแนะให้เร่งทบทวนการกดดันรัสเซียมากขึ้น รวมทั้งเร่งดำเนินการอายัดทรัพย์สินของรัสเซีย เนื่องจากการที่สหภาพยุโรปดำเนินการช้า จะยิ่งทำให้สงครามยืดเยื้อและมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียมากขึ้น ขณะเดียวกันก็สะท้อนว่าสหภาพยุโรปไม่สามารถดำเนินการตัดสินใจเรื่องสำคัญได้รวดเร็วมากพอจนอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความเป็นเอกภาพของยุโรป







