![]()

รัฐบาลสหรัฐฯ พ้นจากสภาวะหยุดชะงักหรือ Government Shutdown ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2568 หลังจากที่ฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการเจรจาและประนีประนอมกันด้านผลประโยชน์ และเสนอร่างงบประมาณรัฐบาลกลางให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนาม ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่างบประมาณดังกล่าวจะทำให้การบริหารของหน่วยงานภาครัฐกลับสู่ภาวะปกติ รวมทั้งสามารถดำเนินนโยบายตามแผนการได้ พร้อมทั้งโจมตีสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติพรรคเดโมแครตว่าเป็นอุปสรรคขัดขวางการอนุมัติงบประมาณ และการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อให้บริการชาวอเมริกัน สำหรับภาวะ Government Shutdown ครั้งนี้เริ่มมาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐบางส่วนต้องระงับการให้บริการ และเจ้าหน้าที่บางส่วนต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง รวมทั้งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้นำสหรัฐฯ ขู่จะตัดลดงบประมาณสนับสนุนสวัสดิการให้ชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำด้วย
การลงนามในงบประมาณรัฐบาลกลางครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติ 222 เสียงสนับสนุนร่างงบประมาณ โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต 6 เสียง เพียงพอต่อการเสนอให้ผู้นำรัฐบาลลงนาม และเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2568 วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ มีมติ 60 ต่อ 40 เห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่าย ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐยังคงได้รับเงินเดือนต่อไป
มีรายงานว่าอุปสรรคสำคัญในการต่อรองและเจรจางบประมาณฉบับนี้ คือ การอนุมัติงบประมาณอุดหนุนสวัสดิการสังคม ภายใต้รัฐบัญญัติ Affordable Care ซึ่งพรรครีพับลิกันจะไม่ต่ออายุในปี 2569 ทำให้พรรคเดโมแครตคัดค้านและไม่ลงมติผ่านร่างบประมาณที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นโยบายสำคัญของพรรค
แม้ว่าภาวะ Government Shutdown จะยุติแล้ว แต่มีรายงานว่ายังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนว่าจะให้บริการภาครัฐกลับสู่ปกติเมื่อใด รวมทั้งยังไม่ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ที่ต้องพักงานชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ จะได้กลับไปปฏิบัติงานตามปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสหรัฐฯ จะเร่งฟื้นฟูระบบการให้บริการด้านคมนาคมและการขนส่ง โดยเฉพาะการให้บริการในท่าอากาศยานต่าง ๆ เพราะต้องการให้ฟื้นตัวทันก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ในปลายพฤศจิกายน 2568 ซึ่งจะมีชาวอเมริกันเดินทางจำนวนมากและเป็นช่วงกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ







