จีน-อัฟกานิสถาน: ความสัมพันธ์ภายใต้การนำของตอลีบัน
นับตั้งแต่ก่อนตอลีบันยึดกรุงคาบูลได้สำเร็จในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บทบาทของจีนเป็นที่จับตามองมาโดยตลอดจากประชาคมระหว่างประเทศ เพราะจีนถือเป็นประเทศหนึ่งที่พยายามสร้างสมดุลทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเดิมของอัฟกานิสถาน และกลุ่มตอลีบันมาโดยตลอด น่าสนใจว่าจีนเป็นไม่กี่ประเทศที่ไม่มีการสั่งอพยพนักการทูตซึ่งประจำอยู่ที่กรุงคาบูล แม้ว่ากรุงคาบูลจะโดนปิดล้อม หรือภายหลังถูกเปลี่ยนผ่านมาอยู่ในมือของตอลีบันแล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนจีนจะกลายเป็นประเทศแรก ๆ ที่กลุ่มตอลีบันเดินเข้าหาเพื่อขอความช่วยเหลือด้วย เห็นได้จากการเข้าพบทูตจีนประจำอัฟกานิสถานหลายครั้งของบรรดาผู้นำกลุ่มต่าง ๆ ของตอลีบัน ในหลายโอกาส และหลายวาระ ตลอดจนการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศของโฆษกรัฐบาลรักษาการที่เชิญชวนให้จีนเข้ามาลงทุนในการพัฒนาอัฟกานิสถาน ปรากฏการณ์เช่นนี้ส่งผลให้เกิดคำถามขึ้นมากมายเกี่ยวกับบทบาท สถานะ และความสัมพันธ์ของจีนต่ออัฟกานิสถานภายหลังการขึ้นมามีอำนาจของตอลีบัน โดยเฉพาะปัจจัยความสำคัญของอัฟกานิสถานที่มีต่อจีน ตลอดจนท่าทีของจีนในอนาคตต่อตอลีบันและอัฟกานิสถาน หากพิจารณาในแง่ความสำคัญของอัฟกานิสถานที่มีต่อจีนอาจมองได้ 3 มิติ สำคัญคือ มิติทางด้านความมั่นคง: มิตินี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของจีนเลยก็ว่าได้ เห็นได้จากบทวิเคราะห์ของนักวิชาการจีนที่เชี่ยวชาญด้านอัฟกานิสถานหรือประเทศในเอเชียใต้ ทั้งในภาษาจีนและอังกฤษต่างลงความเห็นตรงกันว่าจีนจำเป็นต้องพูดคุยและสานสัมพันธ์กับอัฟกานิสถานต่อแม้เปลี่ยนผ่านไปอยู่ในอำนาจของกลุ่มตอลีบัน เพราะต้องไม่ลืมว่าอัฟกานิสถานและจีนนั้นมีพรมแดนร่วมกัน และบริเวณดังกล่าวก็ติดกับเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนด้วย ซึ่งกำลังมีปัญหาการแบ่งแย่งดินแดน และการก่อการร้ายซึ่งเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อจีน ฉะนั้นจีนจึงย้ำกับทางอัฟกานิสถานหลายครั้งไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลก็ตามคือการร่วมกันกำจัดกลุ่มเคลื่อนไหวเตอร์กิสตะวันออก และจีนก็ใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขสำคัญในการช่วยเหลือตอลีบันเช่นกัน มิติทางด้านเศรษฐกิจ: มิตินี้ถือเป็นอีกหนึ่งมุมที่ยากจะตัดออกไปจากสมการทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอัฟกานิสถาน เพราะประเทศแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยทรัพยากรและแร่ธาตุหายากจำนวนมหาศาลซึ่งจะมีส่วนอย่างสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคของจีนในอนาคต ยังไม่นับรวมว่าก่อนหน้านี้จีนเองได้เข้ามาประมูลสัมปทานน้ำมันและเหมืองทองแดงอยู่ก่อนแล้ว แต่ด้วยปัญหาความขัดแย้งส่งผลให้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ฉะนั้นอัฟกานิสถานจึงถือเป็นพื้นที่การลงทุนที่จีนเองก็มองว่าจะสามารถทำกำไรได้อย่างมากในมุมที่ทรัพยากรจำนวนมากยังคงอุดมสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นการที่ตอลีบันมีอำนาจแข็งแกร่งเพียงพอก็อาจมีส่วนช่วยในการยืนยันความปลอดภัยให้บริษัทและแรงงานชาวจีนได้มากขึ้นด้วย และ 3. มิติภูมิรัฐศาสตร์: หากเราพิจารณาประเทศอัฟกานิสถานบนแผนที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าประเทศนี้เป็นจุดเชื่อมสำคัญของภูมิภาคเอเชีย…