ชัยชนะอันเกินความคาดหมายกว่า 14,000,000 เสียงที่พรรคก้าวไกลได้รับซึ่งคงเป็นผลจากการนำสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Tiktok มาประยุกต์ใช้ในการรณรงค์หาเสียงในศึกการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 นี้ สร้างปรากฏการณ์และบทเรียนครั้งสำคัญให้พรรคการเมืองหลายพรรคในการที่ต้องนำประเด็นดังกล่าวมาขบคิดอย่างจริงจัง โดยแม้ว่าหากมองในมิติระดับฐานรากก็ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้งาน Tiktok จำนวนมากกว่า 40,000,000 คน (คิดเป็นอัตราส่วนได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ) ตัวเลขที่ว่านี้แสดงให้เห็นถึงความกว้างขวางในการเข้าถึงฐานลูกค้าของแอปพลิเคชันดังกล่าว ………….แต่ในทางกลับกัน จากการสำรวจจะเห็นได้ว่ามีพรรคการเมืองเพียงไม่กี่พรรคเท่านั้นที่นำ Tiktok มาประยุกต์ใช้กับการเมือง ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ พรรคก้าวไกลที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2,000,000 คน มีสถิติผู้กดถูกใจเกือบ 40,000,000 ครั้ง ขณะเดียวกันในกรณีที่น่าเศร้าหรือ worst case คือ หลายๆพรรคไม่มีแม้กระทั่งบัญชี Tiktok ของตนเองเลย เช่น ภูมิใจไทย และพลังประชารัฐ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีบัญชี Tiktok แต่ไม่ได้รับความสำคัญหรือสนใจเท่าใดนัก ทำให้มีจำนวนผู้ติดตามเพียง 9,000 คน การนำวัฒนธรรมการสื่อสารมวลชนสมัยใหม่มาผสมผสานกับเทคโนโลยีสื่อสังคมออนไลน์ แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคเกิดใหม่ ที่ประกอบไปด้วยบุคลากรวัยเยาว์และมีประสบการณ์ทางการเมืองน้อย แต่ต้องยอมรับเลยว่าในด้านเทคโนโลยีนั้น พรรคก้าวไกลถือเป็นพรรคที่มีความเข้าใจระบบและรูปแบบการสื่อสารสมัยใหม่พรรคหนึ่งทีเดียว เนื่องจากพรรคดังกล่าวนั้นได้นำวัฒนธรรมการสื่อสารมวลชนสมัยใหม่ที่เน้นสื่อสารกันผ่านวีดิทัศน์(video)ขนาดสั้นในกรอบ 15 วินาที ถึง 1 นาที…