ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางเยือนเอเชียตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2568 เป็นระยะเวลา 5 วัน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสำคัญระดับพหุภาคีในภูมิภาคและพบหารือกับผู้นำต่างประเทศในเอเชีย โดยการเยือนภูมิภาคเอเชียครั้งนี้ประกอบด้วยการเยือนมาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญที่พันธมิตรและหุ้นส่วนของสหรัฐฯ จะได้หารือกับผู้นำสหรัฐฯ โดยตรงเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและมาตรการการค้าที่จะส่งผลต่อทิศทางความร่วมมือและความมั่นคงของภูมิภาคต่อไป การประชุมระดับพหุภาคีที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าร่วม ได้แก่ การประชุมสุดยอดกับประเทศสมาชิกอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งสหรัฐฯ เป็นประเทศคู่เจรจา จึงจะได้เข้าร่วมการประชุมสำคัญ รวมทั้งการลงนามในปฏิญญาสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อเริ่มแนวปฏิบัติร่วมที่จะนำไปสู่การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน การเก็บกู้วัตถุระเบิด การร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และเจรจาแนวทางบริหารพื้นที่ทับซ้อน เป้าหมายเพื่อเสริมสร้างสันติภาพระหว่างประเทศ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้จะเป็นเหตุการณ์สำคัญในการประชุมอาเซียนครั้งนี้ รวมทั้งคาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะอ้างว่าสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการลงนามในปฏิญญาดังกล่าวด้วย ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตามจากการที่ผู้นำสหรัฐฯ เยือนเอเชียในครั้งนี้ มีอย่างน้อย 5 เรื่องที่อาจส่งผลต่อบรรยากาศความมั่นคงระหว่างประเทศ และเป็น “สัญญาณ” การดำเนินนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อไทย ประเด็นแรก คือ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศในเอเชีย เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศในภูมิภาค ทำให้คาดว่าผู้นำเอเชียจะให้โอกาสนี้หารือและต่อรองผลประโยชน์โดยตรง เพื่อให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีตอบโต้ รวมทั้งไทย ซึ่งเตรียมการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อให้ยกเลิกมาตรการภาษีตอบโต้ร้อยละ 19 รวมทั้งหาข้อสรุปประเด็นสหรัฐฯ…