นโยบายวีซ่าฟรีเป็นหนึ่งในแผนที่รัฐบาลหลายประเทศในปัจจุบันรวมถึงไทยหวังจะใช้กระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศตนให้กลับคึกคักอีกครั้งหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งนอกเหนือจากไทยแล้วยังมีประเทศอื่น ๆ ด้วยเช่นกันที่ออกนโยบายผ่อนปรนวีซ่าหรือวีซ่าฟรีก่อนไทย(ให้วีซ่าฟรีชั่วคราวแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานระหว่าง 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567) เช่น ญี่ปุ่นได้ยกเว้นวีซ่าให้กับ 70 ประเทศทั่วโลก เวียดนามได้ยกเว้นวีซ่าให้ 25 ประเทศ ไต้หวันได้ขยายเวลาฟรีวีซ่าให้ประเทศไทย บรูไน ฟิลิปปินส์จนถึงปี 2567 คาซัคสถานได้ยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติ และประเทศจีนเองก็เตรียมนำนโยบายปลอดวีซ่ามาใช้เช่นกัน โดยจากข้อสังเกตจะเห็นว่าหลายประเทศใช้นโยบายวีซ่าฟรีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและส่งเสริมกิจการเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปได้อีกครั้งหลังจากที่ต้องเผชิญกับภาวะติดขัดในช่วงการแพร่ระบาด ภายหลังจากการประกาศใช้นโยบายวีซ่าฟรี ผลลัพธ์ของนโยบายนี้นับได้ว่าช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวจริงอย่างเห็นได้ชัดในหลาย ๆ ประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ได้ดำเนินมาตรการยกเว้นวีซ่าก่อนประเทศไทยซึ่งเริ่มตั้งแต่ 11 ตุลาคม 2565 ภายในเดือนตุลาคมเพียงเดือนเดียวก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าญี่ปุ่นจำนวนเกือบ 5 แสนคนจากช่วงเดือนกันยายนที่มีจำนวนเพียง 2 แสนกว่าคนเท่านั้น โดยในเดือนพฤศจิกายนได้เพิ่มสูงถึง 9 แสนคน ก่อนที่ในเดือนธันวาคมจะสามารถแตะไปจนถึง 1 ล้านกว่าคน และในปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวก็เดินทางเข้าญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องอีกจำนวน 1-2 ล้านคน ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้ธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นถูกจองเป็นจำนวนมาก ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานหลายตำแหน่ง และสร้างรายได้ให้กับประเทศญี่ปุ่นจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย ยกตัวอย่างอีกหนึ่งประเทศซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของไทย อย่างประเทศเวียดนาม…