อาวุธชีวภาพ: ภัยไกลตัวที่ควรเฝ้าระวัง
ข่าวการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นระยะๆ เป็นสิ่งสะท้อนว่าโลกเสี่ยงจะเผชิญปัญหาจากเชื้อโรคสายพันธุ์ต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งเชื้อโรคตามธรรมชาติจากพืชและสัตว์ และเชื้อโรคที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีชีวภาพดัดแปลง และปัญหาจะรุนแรงขึ้นหากเชื้อโรคเหล่านั้นกลายเป็นต้นเหตุของโรคระบาด หรือมีการนำไปพัฒนาเป็นอาวุธชีวภาพเพื่อใช้ในการโจมตี ทั้งที่เป็นการกระทำของรัฐและตัวแสดงที่มิใช่รัฐ ผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายไม่ด้อยไปกว่าการโจมตีด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร เห็นได้จากยอดผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมากทั่วโลก และผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมที่ยาวนานกว่า 3 ปี ทำให้เกิดความห่วงกังวลว่า การอุบัติขึ้นของโรคโควิด-19 อาจเป็นแรงจูงใจให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสนใจใช้อาวุธชีวภาพเพื่อก่อเหตุ แม้ยังไม่มีการยืนยันว่าโรคโควิด-19 เกี่ยวข้องกับการใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและความมั่นคงเห็นว่ายังเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดการโจมตีด้วยอาวุธเชื้อโรค แต่ก็ยอมรับว่า ปัญหาจากเชื้อโรคและอาวุธชีวภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังและเตรียมการรับมือ ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากรและเทคโนโลยีทางการแพทย์ การกำหนดมาตรการป้องกันและคุ้มครอง (Prevention and Protection) ประชาชน การเตรียมการจัดการเมื่อเกิดเหตุและการฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ เพื่อลดความเสียหายในระดับประเทศและบุคคล เนื่องจากหากมีการนำอาวุธชีวภาพไปใช้โจมตีในที่สาธารณะหรือระบบสาธารณูปโภค อาจสร้างความเสียหายในวงกว้างและยากต่อการควบคุม เฉพาะอย่างยิ่งเชื้อหรือสารก่อโรคใหม่ ที่ต้องใช้เวลาในการศึกษาวิจัย รวมถึงการติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่พิสูจน์ทราบได้ยาก สหรัฐฯ เป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันปัญหาจากเชื้อโรค เห็นได้จากการที่ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ฉบับล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อตุลาคม 2565 ระบุให้โรคระบาดและการป้องกันด้านชีวภาพ (Pandemics and Biodefense) เป็นหนึ่งในภารกิจที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญและต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากโรคระบาดในอนาคตจะร้ายแรงขึ้นและทำให้ถึงแก่ความตายได้มากขึ้น การเตรียมการรับมือระดับประเทศและระหว่างประเทศจึงเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกัน…