Surrogate Warfare สงครามตัวแทนที่มีเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญ
การทำสงคราม หรือ warfare ระหว่างมนุษย์มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่ทำให้การทำสงครามมีการเปลี่ยนรูปแบบไปตามยุคสมัย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องมือ อาวุธ และวิธีการที่มนุษย์ใช้เพื่อเอาชนะในสงครามแต่ละครั้งที่มีความแตกต่างกัน เนื่องจากผู้ที่ต้องการเอาชนะย่อมมองหาเครื่องมือ อาวุธ และวิธีการที่ดีที่สุดในการชิงความได้เปรียบ และลดความเสี่ยงที่จะแพ้ในสงคราม ตามที่นักรบและนักคิดอย่าง Carl von Clausewitz นักการทหารรัฐศาสตร์ปรัสเซีย–เยอรมนีผู้เขียนหนังสือเรื่อง “On War” ซึ่งเป็นต้นแบบของแนวคิดในการทำสงครามปัจจุบัน กล่าวไว้ว่า “สงคราม” คือ เครื่องมือทางการเมือง (เท่ากับว่าการเมืองนำการทหารเสมอ) ที่ใช้กำลังบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามยอมจำนนและเพื่อให้ฝ่ายที่ชนะสามารถดำเนินนโยบายได้ เมื่อไม่สามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ได้แล้ว นอกจากนี้ เมื่อลงมือทำสงครามแล้ว ย่อมต้องทำทุกวิธีเพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาดเท่านั้น ดังนั้น การเอาชนะในสงครามไม่ได้จำกัดแค่การใช้อาวุธหรือเครื่องมือที่เป็นรูปธรรม แต่ต้องรวมถึงการใช้วิธีทางจิตวิทยาสังคม และความเชื่อมั่นว่าการดำเนินการของตนเป็นฝ่ายถูกต้องด้วย แม้ในระยะต่อมาจะมีแนวคิดต่อต้านการทำสงคราม หรือ Pacificism รวมทั้งความร่วมมือระหว่างประเทศที่มุ่งหน้าสู่การปลดอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หรือยุติสงคราม แต่สถานการณ์โลกในปัจจุบันก็สะท้อนชัดเจนแล้วว่า “การทำสงคราม” ยังเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่สังคมต่าง ๆ ใช้ต่อกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง …เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดสถานการณ์รัสเซีย–ยูเครนในปี 2565 แม้รัสเซียจะยืนยันว่านี่คือปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร และการปลดปล่อยประชาชนในพื้นที่ของยูเครน แต่ประเทศตะวันตกต่างเรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ว่า…สงคราม ในระยะหลังมีการพูดถึงการทำสงครามรูปแบบใหม่ ๆ ที่ผสมผสานเครื่องมือและวิธีการในเอาชนะฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น…