Category Archives: Look Around The World

อินเดียอนุมัติใช้วัคซีน Covaxin ในเด็กอายุ 2-18 ปี เป็นกรณีฉุกเฉิน

สำนักข่าว Hindustan Times รายงานเมื่อ 12 ต.ค.64 ว่า Drugs Controller General of India (DCGI) อนุมัติใช้วัคซีน Covaxin ของบริษัท Bharat Biotech ของอินเดีย ในเด็กอายุ 2-18 ปี เป็นกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ชนิดที่ 2 ที่ DCGI อนุมัติใช้ในเด็กต่อจากวัคซีน ZyCoV-D ของบริษัท Zydus Cadila ที่ DCGI อนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป เมื่อ 20 ส.ค.64 โดยผลการทดสอบทางคลินิก ระยะที่ 3 ในอาสาสมัครวัยเด็ก 525 คน พบว่า วัคซีน Covaxin มีประสิทธิภาพการป้องกันโรค COVID-19 ในเด็กใกล้เคียงกับประสิทธิภาพการป้องกันโรคในผู้ใหญ่ที่ร้อยละ 77.8

ลาวว่า รถไฟโดยสารขบวนแรกของโครงการรถไฟลาว-จีน จะมาถึงลาวใน 15 ต.ค.64

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์ รายงานเมื่อ 13 ต.ค.64 ว่า รถไฟโดยสารขบวนแรกของโครงการเส้นทางรถไฟลาว-จีน จะมาถึงนครหลวงเวียงจันทน์ใน 15 ต.ค.64 เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดดำเนินการโครงการฯ ใน 2 ธ.ค.64 (วันชาติลาว) โดยรัฐบาลลาวตั้งชื่อรถไฟโดยสารขบวนดังกล่าวว่า “ล้านซ้าง”  (Lane Xang) (ชื่อเดิมของลาวในอดีต) อีกทั้งโครงการเส้นทางรถไฟลาว-จีน มีแผนจะซื้อรถไฟโดยสารขบวนที่ 2 ซึ่งจะใช้ชื่อว่า “แคนลาว” นอกจากนี้ รัฐบาลลาวอยู่ระหว่างการจัดทำแผนเปิดให้บริการโครงการเส้นทางรถไฟลาว-จีน ให้สอดคล้องกับมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เพื่อความปลอดภัยของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดหามาตรการตรวจสอบการข้ามแดนของนักท่องเที่ยวและสินค้าบริเวณพรมแดนลาว-จีน ทั้งนี้ โครงการเส้นทางรถไฟลาว-จีน มีระยะทางรวม 422.4 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ ธ.ค.59 ด้วยงบประมาณ 5,986 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าได้ประมาณร้อยละ 30 – 40 เมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งด้วยรถยนต์

ชาวแคนาดาส่วนใหญ่คัดค้านการให้บริษัทหัวเว่ยของจีนเข้ามาพัฒนาเทคโนโลยี 5G

สถาบัน Nanos Research for The Globe and Mail รายงานเมื่อ 11 ต.ค.64 ว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวแคนาดาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีจากบริษัทหัวเว่ยในการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ในแคนาดาปรากฏว่าชาวแคนาดาคิดเป็นร้อยละ 75 คัดค้านการที่รัฐบาลจะอนุญาตให้บริษัทหัวเว่ยเข้ามาพัฒนาเทคโนโลยี 5G นอกจากนี้ สถาบันดังกล่าวรายงานว่า ชาวแคนาดาคิดเป็นร้อยละ 36 คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดากับจีนได้รับผลกระทบจากการจับกุมตัวชาวแคนาดาสองคนข้อหาจารกรรมข้อมูลตั้งแต่ ธ.ค.61 แม้รัฐบาลจีนปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวให้กลับประเทศแล้วเมื่อ ก.ย.64

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งสหราชอาณาจักรเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเข้าร่วมประชุม COP26

หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮอรัลด์ รายงานเมื่อ 12 ต.ค.64 อ้างคำให้สัมภาษณ์เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งสหราชอาณาจักรกับสำนักข่าวBBC ถึงกรณีที่นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ยังไม่ประกาศการตัดสินใจเข้าร่วมประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (Conference of the Parties-COP26) ที่จะจัดระหว่าง 31 ต.ค.-12 พ.ย.64 ณ เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้ความเห็นว่า เป็นโอกาสสุดท้ายที่ออสเตรเลียจะแสดงความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภัยพิบัติทั่วโลก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน อยู่ระหว่างหารือกับคณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับนโยบายใหม่อย่างเป็นทางการเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังต้องยกระดับเป้าหมายในการลดการปล่อยมลพิษให้เหลือร้อยละ 26-28 ภายในปี 2573

เกาหลีใต้บริจาควัคซีน COVID-19 ให้แก่เวียดนามและไทย

สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานเมื่อ 12 ต.ค.64 อ้างกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้เตรียมบริจาควัคซีน COVID-19 ของบริษัท AstraZeneca ให้แก่เวียดนาม 1.1 ล้านโดส และไทย 470,000 โดส ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้บริจาควัคซีนให้ต่างประเทศโดยตรง และเกาหลีใต้ทบทวนคำขอรับบริจาคโดยพิจารณาจากความปลอดภัยของชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยในเวียดนามและไทย เพื่อคุ้มครองชีวิตของชาวเกาหลีใต้ และประชาชนในประเทศ รวมถึงนโยบายต่างประเทศ ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ โดยวัคซีนจะถึงประเทศปลายทางใน 13 ต.ค.64 ขณะที่เกาหลีใต้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับการดำเนินการตามแผนการฉีดวัคซีน โดยเกาหลีใต้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่ประชาชนจำนวน 40 ล้านคน หรือร้อยละ 77.9 ของประชากร และอัตราผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ร้อยละ 60 ของประชากร

สิงคโปร์และออสเตรเลีย พบหารือเกี่ยวกับข้อตกลงเศรษฐกิจสีเขียวฉบับใหม่

หนังสือพิมพ์ The Straits Times รายงานเมื่อ 11 ต.ค.64 ว่า ในวันเดียวกัน นายกาน คิม ยง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ พบหารือกับนาย Dan Tehan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนของออสเตรเลีย เกี่ยวกับข้อตกลงเศรษฐกิจสีเขียวฉบับใหม่ (Green Economy Agreement – GEA) ที่มุ่งส่งเสริมการค้าและการลงทุนเศรษฐกิจสีเขียวระหว่างทั้งสองประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ และอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี (non-tariff barriers) ของสินค้าและบริการด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเร่งผลักดันเทคโนโลยีสีเขียวในประเทศ ทั้งนี้ สิงคโปร์และออสเตรเลีย เริ่มหารือข้อตกลง GEA อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 22 ก.ย.64 โดยนาย Gan ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการค้าและสิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาคและพหุภาคี

สถิติประชากรรัสเซียลดลงมากที่สุดในรอบ 12 เดือน

เว็บไซต์ The Moscow Times รายงานเมื่อ 11 ต.ค.64 อ้างคำกล่าวของนาย Alexei Raksha นักประชากรศาสตร์และอดีตที่ปรึกษาสำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซีย (Rosstat) ว่า ประชากรรัสเซียลดลงมากที่สุดในรอบ 12 เดือน โดยหนึ่งในสาเหตุคือการเสียชีวิตจากโรค COVID-19 ที่มีอย่างน้อย 660,000 ราย ตั้งแต่เริ่มการระบาด โดยการเสียชีวิตตามธรรมชาติของรัสเซียห้วง ต.ค.63-ก.ย.64 เมื่อคิดจากจำนวนผู้เสียชีวิตและการเกิด ไม่รวมการย้ายถิ่นฐานที่มีมากถึง 997,000 ราย ส่งผลให้ประชากรทั้งหมดของรัสเซียมีประมาณ 145 ล้านคน ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2543 และในห้วงการผนวกรวมไครเมียของรัสเซียเมื่อปี 2557 รัสเซียมีประชากรเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน ก่อนหน้านี้ รัสเซียเผชิญการลดลงอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรห้วงทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นภาวะวุ่นวายทางเศรษฐกิจ จากอัตราการเกิดลดลงและปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะความยากจนและโรคพิษสุราเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น สถิติประชากรธรรมชาติที่ลดลงก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในห้วง ก.ค.42-มิ.ย.43 ที่มีประชากรลดลง 983,000 ราย อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ประธานาธิบดีปูตินครองอำนาจ…

จีนจะจัดตั้งกองทุนด้านความหลากหลายทางชีวภาพมูลค่า 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมผู้นำประเทศกลุ่มภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลายหลายทางชีวภาพ (Conference of the Parties-COP15) ครั้งที่ 15 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ ณ นครคุนหมิง มณฑลยูนนานเมื่อ 12 ต.ค.64 ผ่านทางการประชุมทางไกลว่า จีนจะจัดตั้งกองทุนความหลากหลายทางชีวภาพคุนหมิง มูลค่า 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ และเชิญชวนทุกประเทศร่วมสนับสนุนกองทุนดังกล่าวด้วย  รวมทั้งการใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นพื้นฐานเพื่อการรักษาระบบ ธรรมาภิบาลระหว่างประเทศที่ยุติธรรมและเสมอภาค ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชากรโลก และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้ได้ใน 1 ม.ค.65 หากสมาชิกให้สัตยาบันครบตามจำนวนที่กำหนด

สำนักข่าว The Scoop ของบรูไน รายงานเมื่อ 12 ต.ค.64 ว่า บรูไนได้มอบสัตยาบันสารความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership-RCEP) แก่สำนักงานเลขาธิการอาเซียนแล้ว ทำให้นับแต่มีการลงนามความตกลงดังกล่าวระหว่างสมาชิก 15 ประเทศ เมื่อ 15 พ.ย.63 มีประเทศที่ให้สัตยาบันความตกลงแล้ว รวม 6 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย กัมพูชา สิงคโปร์ บรูไน จีน และญี่ปุ่น ทั้งนี้ การที่ความตกลง RCEP จะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ตามห้วงเวลาที่กำหนดไว้คือตั้งแต่ 1 ม.ค.65 เป็นต้นไป สมาชิกอาเซียนอีก 2 ประเทศและคู่เจรจาของอาเซียนอีก 1 ประเทศ ต้องให้สัตยาบันภายใน 31 ธ.ค.64 (จากข้อกำหนดที่ประเทศอาเซียนอย่างน้อย 6 ประเทศ และคู่เจรจา 3 ประเทศต้องให้สัตยาบัน)  

WHO แนะนำให้ผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีน Sinovac และ Sinopharm รวมถึงผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มที่ 3

เว็บไซต์ข่าวองค์การสหประชาชาติ (United Nations-UN) รายงานเมื่อ 11 ต.ค.64 อ้างถ้อยแถลงของคณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization’s Strategic Advisory Group of Experts–SAGE) แนะนำให้ผู้อายุ 60 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีน Sinovac และ Sinopharm และผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (booster) เนื่องจากผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องไม่สามารถตอบสนองต่อวัคซีนได้ตามมาตรฐาน และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงหากติดเชื้อโรค COVID-19 โดย WHO เน้นย้ำให้ฉีดวัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก WHO แล้ว   นอกจากนี้ WHO ยังเรียกร้องประเทศต่าง ๆ ให้เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ครบ 2 โดสให้ได้มากที่สุด ก่อนพิจารณาฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับประชาชน โดยเริ่มฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มแรก เพื่อให้ประชากรทั่วโลกกว่าร้อยละ 40 ได้รับวัคซีนภายในปี 2564 และร้อยละ 70 ภายในกลางปี 2565