Category Archives: Look Around The World

อินโดนีเซียให้สัตยาบันความร่วมมือด้านกลาโหมทวิภาคีกับห้าประเทศ

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียมีมติเมื่อ 30 ก.ย.67 เห็นชอบร่างข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมทวิภาคีระหว่างอินโดนีเซียกับกัมพูชา อินเดีย ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบราซิล ด้านนางปวน มหารานี ประธานสภาฯ ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้อินโดนีเซียมีหุ้นส่วนด้านการป้องกันประเทศที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งทุกฝ่ายต่างให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ขณะที่ นายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกลาโหม ย้ำความสำคัญของบทบาทและเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ของพันธมิตร ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะสามารถปกป้องภัยคุกคาม และยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมการป้องกันของอินโดนีเซีย

เลขาธิการ UN แต่งตั้งผู้ประสานงาน UN ประจำประเทศไทยคนใหม่

ข่าวสารนิเทศองค์การสหประชาชาติ (United Nations – UN) รายงานเมื่อ 30 ก.ย.67 ว่า นายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการองค์การ UN มีคำสั่งแต่งตั้ง น.ส. Michaela Friberg-Storey ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศจากสวีเดน เป็นผู้ประสานงาน UN ประจำประเทศไทยตั้งแต่ 30 ก.ย.67 เป็นต้นไป ทั้งนี้ น.ส.Michaela Friberg-Storey จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์มและระดับปริญญาโทสาขาการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากมหาวิทยาลัย Uppsala สวีเดน มีประสบการณ์การทำงานด้านการสร้างสันติภาพเป็นเวลา 25 ปี เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้ประสานงาน UN ประจำคาซัคสถาน ผู้บริหารระดับสูงในแนวร่วมกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงสากล (International Red Cross and Red Crescent Movement) ที่ปรึกษาอาวุโสกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อเมืองท่าของเยเมน

กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ออกแถลงการณ์เมื่อ 29 ก.ย.67 ว่า กองทัพอากาศอิสราเอล (Israeli Air Force-IAF) ส่งเครื่องบินรบโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารของกลุ่มกบฎ Houthi ในเยเมน ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าและท่าเรือในเมืองท่า Hodeidah และท่าเรือ Ras Isa ทางตะวันตกของเยเมน ซึ่งใช้สำหรับนำเข้าน้ำมันและอาวุธจากอิหร่าน เพื่อตอบโต้ที่กลุ่ม Houthi ยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายต่อท่าอากาศยานนานาชาติ Ben Gurion ในกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล ระหว่างที่เครื่องบินที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลโดยสาร ลงจอดที่อากาศยานเมื่อ 28 ก.ย.67 เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนปาเลสไตน์และเลบานอน แต่ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลสามารถสกัดกั้นไว้ได้ การโจมตีเยเมนครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 29 คน รวมถึงทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ถูกโจมตีเกิดไฟฟ้าดับ ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่อิสราเอลโจมตีเมืองท่าดังกล่าว หลังโจมตีครั้งแรก เมื่อ 20 ก.ค.67 และเกิดขึ้นในห้วงที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดสูง หลังอิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อเลบานอนจนส่งผลให้นายฮะซัน นัศรอลลอฮ์ ผู้นำกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ เสียชีวิตเมื่อ…

APHR จัดเสวนาออนไลน์เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา

เฟซบุ๊กของกลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (ASEAN Parliamentarians for Human Rights-APHR) รายงานว่า APHR จัดเสวนาผ่านระบบซูม เรื่อง “วิกฤตการณ์ในเมียนมา – ความล้มเหลวของอาเซียน? : การปฏิวัติในเมียนมาเพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน” (Burma in Crisis – ASEAN Failure? : Myanmar’s Revolution Towards Sustainable Transformation) เมื่อ 26 ก.ย.67 โดยมีคณะกรรมของ APHR ร่วมอภิปราย เช่น นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และนาง Eva Kusuma Sundari อดีต ส.ส.อินโดนีเซีย

มาเลเซียแถลงนโยบายเกี่ยวกับการเป็นประธานอาเซียนในที่ประชุม UNGA

สำนักข่าว MalayMail รายงานเมื่อ 29 ก.ย.67 ว่า ดาโต๊ะ ซรี อูตามา ฮาจิ โมฮามัด บิน ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย แถลงในที่ประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ (United Nation General Assembly-UNGA) สมัยที่ 79 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อ 28 ก.ย.67 ว่า มาเลเซียพร้อมแล้วที่จะรับตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 โดยมาเลเซียตระหนักถึงความสำคัญของการทำให้อาเซียนอยู่ในสถานะเป็นผู้ขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มาเลเซียให้พันธสัญญาว่าจะนำอาเซียนสู่การพร้อมรับอนาคต (future-readiness) โดยมุ่งเน้นการมีความทะเยอทะยานระดับโลก (global aspiration) นโยบายที่ขับเคลื่อนโดยประชาชน และกลไกที่มุ่งเน้นอนาคต ขณะเดียวกัน อาเซียนจะรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียน ไม่ให้เกี่ยวพันกับความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น ในบรรยากาศของการแข่งขันของมหาอำนาจและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่มีการก่อตั้งความร่วมมือพหุภาคีขึ้นมามากมายซึ่งส่งผลกระทบต่อภูมิภาค รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียระบุด้วยว่าจะให้ความสำคัญอันดับแรกกับการจัดการความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ โดยเรียกร้องให้เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) รวมทั้งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อให้ทะเลจีนใต้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความร่วมมือ ขณะที่การแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมาจะยึดมั่นในฉันทมติ 5 ข้อของอาเซียน และเพิ่มการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม

ฟิลิปปินส์แถลงในที่ประชุม UNGA เน้นย้ำใช้แนวการทูตและสันติวิธีระงับข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ เผยแพร่ถ้อยแถลงของนายเอ็นริเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ต่อที่ประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ (United Nation General Assembly-UNGA) สมัยที่ 79 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ผ่านแพลตฟอร์ม X เมื่อ 29 ก.ย.67 ระบุว่า ฟิลิปปินส์ยึดมั่นอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (United Nations Convention on the Law of the Sea-UNCLOS) และคำชี้ขาดกรณีทะเลจีนใต้ของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเมื่อปี 2559 รวมถึงกลไกการระงับข้อพิพาทตามแนวทางการทูตและสันติวิธี เพื่อแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ แม้ที่ผ่านมาจะมีการกระทำที่ไม่รับผิดชอบและเป็นอันตรายต่อกิจกรรมอันชอบธรรมในน่านน้ำและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (Exclusive Economic Zone-EEZ) ของฟิลิปปินส์ พร้อมกันนี้ ฟิลิปปินส์ปฏิเสธการสร้างเรื่องเล่า (narrative) ที่ระบุว่าทะเลจีนใต้เป็นเวทีแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ เนื่องจากทุกประเทศในภูมิภาค ต่างมีสิทธิกำหนดใจตนเอง (right to determine) ภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ

สหรัฐฯ ป้องกันไม่ให้อิหร่านและพันธมิตรแสวงประโยชน์จากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อ 29 ก.ย.67 ว่า สหรัฐฯ ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางต่อเนื่อง และยังมุ่งเน้นภารกิจการปกป้องพลเมืองและกองทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาค การป้องกันประเทศของอิสราเอล และลดระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ด้วยการป้องปรามและการทูต โดยมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้อิหร่านและพันธมิตรที่อิหร่านสนับสนุน แสวงประโยชน์จากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หรือขยายความขัดแย้งให้รุนแรงขึ้น ทั้งนี้หากอิหร่านหรือพันธมิตรโจมตีบุคลากรหรือผลประโยชน์ในภูมิภาคของสหรัฐฯ ห้วงนี้ สหรัฐฯ จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องพลเมืองและผลประโยชน์จองชาติ กับทั้งระบุว่า กองทัพจะเสริมขีดความสามารถด้านการป้องกันทางอากาศให้กับกองกำลังที่ประจำอยู่ในตะวันออกกลางเร็ว ๆนี้ เพิ่มเติมจากที่ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน USS ABRAHAM LINCOLN ไปปฏิบัติการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกเมื่อ ส.ค.67

รมว.กต. ระบุว่า UN ยังเป็นองค์การสำคัญในการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงของโลก

ข่าวสารนิเทศองค์การสหประชาชาติ (United Nations-UN) รายงานอ้างถ้อยแถลงของมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ในการอภิปรายทั่วไป (General Debate) ของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly-UNGA) สมัยที่ 79 เมื่อ 28 ก.ย.67 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ระบุว่า UN ยังคงเป็นองค์การสำคัญในการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงของโลกอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ระบุด้วยว่าไทยเผชิญกับความท้าทายในระดับภูมิภาคจากสถานการณ์ความขัดแย้งในเมียนมา อย่างไรก็ดี ไทยปรารถนาให้เมียนมาสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง และย้ำถึงการทำงานอย่างต่อเนื่องของอาเซียนเพื่อบรรลุฉันทามติ 5 ประการ สำหรับการดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ไทยนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกลไกหลักในการผลักดันในระดับท้องถิ่น ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ไทยแสดงความประสงค์ที่เข้าจะเป็นสมาชิก BRICS และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยคาดหวังว่าการเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน (United Nations Human Rights Council-HRC) วาระปี 2568-2570 ทั้งนี้ การอภิปรายทั่วไปในการประชุม UNGA สมัยที่ 79…

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้การต้อนรับ รมว.กต. ในโอกาสร่วมการประชุม UNGA ครั้งที่ 79

หนังสือพิมพ์ The Star รายงานเมื่อ 28 ก.ย.67 ว่า ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดนของสหรัฐฯ ให้การต้อนรับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เมื่อ 27 ก.ย.67 ที่งานเลี้ยงรับรองหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสมาชิกสหประชาชาติ ณ Metropolitan Museum of Art นครนิวยอร์ก หลังเสร็จสิ้นการประชุม สมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ (UNGA) ครั้งที่ 79 (25 ก.ย.67) โดยนายมาริษได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-สหรัฐฯ ที่ใกล้ชิดและยาวนานเกือบ 200 ปี ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมความร่วมมือในทุกมิติ กับทั้งยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะร่วมดำเนินการกับสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม UNGA ครั้งที่ 79 ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือของสมาชิก UN เพื่อรับมือกับความท้าทาย และภัยคุกคามใหม่ที่โลกจะต้องเผชิญในอนาคต พร้อมกับหาโอกาสใหม่ ส่วนกรณียูเครน สหรัฐฯ ยังคงยืนยันการสนับสนุนความช่วยเหลือด้านต่างๆ ให้กับยูเครนเพื่อรับมือกับการรุกรานจากรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถของ NATO สหรัฐฯ…

สมาชิก UNGA สนับสนุนอินเดียเป็นสมาชิกถาวร UNSC

เว็บไซต์ WION ของอินเดีย รายงานเมื่อ 29 ก.ย.67 ว่า นายเซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly-UNGA) ครั้งที่ 79 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ สนับสนุนอินเดียและบราซิลในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council-UNSC) เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี Tshering Tobgay ของภูฏาน นายกรัฐมนตรี Luís Montenegro ของโปรตุเกส ประธานาธิบดีโจเซพ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ฝรั่งเศส และ นายกรัฐมนตรี Keir Starmer ของสหราชอาณาจักร ที่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า สหประชาชาติมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปองค์กร เพื่อให้รับมือกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ