ภัยคุกคามไซเบอร์ในยุคดิจิทัล: ความมั่นคงของประเทศไทยภายใต้ความเสี่ยงใหม่
การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็วของประเทศไทย ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต การผลักดันนโยบาย Digital Government และการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานออนไลน์อย่างมหาศาล ในปี 2568 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 65.4 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 91.2 ของประชากรทั้งหมด ได้นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ด้านความมั่นคงไซเบอร์ ระบบข้อมูลที่สำคัญจำนวนมากของภาครัฐและเอกชนถูกจัดเก็บและบริหารในรูปแบบดิจิทัล ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น ข้อมูลจาก Kaspersky ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกด้านความมั่นคงไซเบอร์ที่พัฒนาและจำหน่ายซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส, การจัดการรหัสผ่าน, ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ปลายทาง และโซลูชันเชิงองค์กรอื่น ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ใช้ทั่วไปจนถึงภาคธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานที่มีความเสี่ยงสูง ระบุว่า ไทยมีอัตราการโจมตีทางไซเบอร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึงร้อยละ70 และพบภัยคุกคามบนเว็บมากกว่า 10 ล้านรายการในหนึ่งปี สะท้อนให้เห็นถึงระดับความรุนแรงที่โลกไซเบอร์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมรภูมิความมั่นคงอย่างแท้จริง ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สำคัญมีหลากหลายรูปแบบ เช่น มัลแวร์ (Malware) เป็นหนึ่งในภัยหลักที่ออกแบบมาเพื่อขโมยหรือทำลายข้อมูล ประกอบด้วยไวรัส เวิร์ม โทรจัน และสปายแวร์ ซึ่งสามารถแพร่กระจายและเข้าควบคุมระบบโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว แรนซัมแวร์ (Ransomware) เป็นภัยคุกคามที่รุนแรง โดยมักใช้การโจมตีผ่านอีเมลหรือไฟล์แนบเพื่อเข้ารหัสข้อมูลเหยื่อและเรียกค่าไถ่ เช่นเดียวกับฟิชชิ่ง (Phishing) ซึ่งใช้การหลอกลวงผ่านเว็บไซต์หรืออีเมลปลอมเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล การพัฒนาของภัยเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรต่าง ๆ ต้องตื่นตัวและวางมาตรการป้องกันอยู่เสมอ การโจมตีทางไซเบอร์ไม่เพียงเกิดจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังมีมนุษย์เป็นช่องโหว่หลัก โดยเฉพาะการขาดความรู้และทักษะที่จำเป็น จากการทดลองการโจมตีแบบฟิชชิ่งในกลุ่มพนักงานหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานในไทย…











