Category Archives: Catch Up

รัฐบาลเวียดนามมีคำสั่งให้นครโฮจิมินห์ควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ให้ได้ก่อน 15 ก.ย.64

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ VGP News ของรัฐบาลเวียดนาม รายงานเมื่อ 10 ส.ค.64 ว่า รัฐบาลมีคำสั่งให้นครโฮจิมินห์เพิ่มความพยายามควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้ได้ก่อน 15 ก.ย.64 จังหวัดบิ่ญเซือง และ จังหวัดด่งนาย ทางตะวันออกเฉียงใต้ และ จังหวัดล็องอาน ทางภาคใต้ ควบคุมสถานการณ์ให้ได้ก่อน 1 ก.ย.64 ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ที่ดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม จำเป็นต้องควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ก่อน 25 ส.ค.64 และดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มงวด พร้อมจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็นให้เพียงพอ และรักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 ได้ทันเวลา นอกจากนี้ รัฐบาลยังมอบหมายให้ กระทรวงการต่างประเทศเสริมสร้างการทูตวัคซีน เสนอนโยบายการเข้าประเทศอย่างเหมาะสมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ พิจารณาและเสนอให้รับรอง “foreign vaccine passport” ในเวียดนาม ทั้งนี้ เวียดนามเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 ทั่วทั้งประเทศ ยกเว้น จังหวัดกาวบั่ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่เมื่อ 10 ส.ค.64 จำนวน…

ชาวเลบานอนเริ่มใช้ความรุนแรงจากสาเหตุวิกฤตขาดแคลนน้ำมันในประเทศ

สำนักข่าว Al Jazeera รายงานเมื่อ 9 ส.ค.64 ว่า เลบานอนเผชิญการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงมานานหลายเดือน ทำให้เกิดความตึงเครียดอย่างมาก เริ่มมีการใช้ความรุนแรงในหลายพื้นที่ที่สืบเนื่องจากการซื้อ-ขายน้ำมัน นอกจากนี้การลดการจ่ายไฟฟ้าในเลบานอนเหลือเพียง 1 ชั่วโมง ต่อวัน ทำให้ประชาชนต้องพึ่งพาแหล่งกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้น้ำมัน คาดว่าการขาดแคลนน้ำมันอาจมีสาเหตุจากการลักลอบขายน้ำมันโดยผิดกฎหมาย การกักตุน และรัฐบาลไม่มีเงินพอจะนำเข้าน้ำมัน โดยสถานการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อรัฐบาลลดเงินอุดหนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะที่เลบานอนเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2562  ทั้งนี้ เมื่อปี 2563 ราคาน้ำมัน 1แกลลอนเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 220 ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนเงินเลบานอนอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 1,500 ปอนด์เลบานอนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ และในตลาดมืดอยู่ที่ 20,000 ปอนด์เลบานอนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ GDP ของเศรษฐกิจจีน จากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สายพันธุ์เดลตา

สำนักข่าวบลูกเบิร์ก รายงานเมื่อ 9 ส.ค.64 ว่า นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันการเงิน Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2564 จะลดลงเหลือร้อยละ 8.3 จากการคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 8.6 และปรับลดการคาดการณ์ GDP ของจีนในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 จะลดลงเหลือร้อยละ 2.3 จากเดิมร้อยละ 5.8 อย่างไรก็ดี  GDP ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 จะฟื้นตัวร้อยละ 8.5 เนื่องจากจีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้รวดเร็วภายใน 1 เดือน  ประกอบกับการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังที่กระตุ้นเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การออกพันธบัตรรัฐบาลที่รวดเร็วขึ้น และการปรับลดอัตราเงินสดสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์อีกครั้ง

สิงคโปร์เปิดบริการฉีดวัคซีน COVID-19 แบบวอล์กอินสำหรับทุกกลุ่มอายุ

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงเมื่อ 9 ส.ค.64 ว่า จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีน COVID-19  ให้ชาวสิงคโปร์และผู้ถือวีซ่าพักอาศัยระยะยาวแบบวอล์กอินสำหรับทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่ 10 ส.ค.64  ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนใกล้บ้านทุกแห่ง   การเปิดบริการแบบวอล์กอินดังกล่าวเป็นการเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มอายุและเพิ่มอัตราการฉีดให้ถึงร้อยละ 80 ของประชากรภายใน ก.ย.64  หลังจากสามารถบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนได้เกินกว่าร้อยละ 70 ในวันชาติ (9 ส.ค.64)   ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ให้บริการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินเฉพาะผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป  เมื่อกลาง ก.ค.64  เนื่องจากเป็นวัยที่เสี่ยงเจ็บป่วยรุนแรงเมื่อติดเชื้อ และขยายมาที่กลุ่ม ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป  เข้ารับการฉีดวัคซีน บริษัท Moderna เมื่อ 2 ส.ค.64  ก่อนที่จะขยายมาครอบคลุมทุกกลุ่มอายุในปัจจุบัน รวมทั้งกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป

เยอรมนีบริจาควัคซีนต้าน COVID-19 ของ บริษัท AstraZeneca ให้ประเทศรายได้ต่ำ

น.ส. Ulrike Demmer รองโฆษกรัฐบาลเยอรมนี แถลงเมื่อ 9 ส.ค.64 ว่า เยอรมนีจะบริจาควัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของ บริษัท AstraZeneca จำนวน 1.3 ล้านโดส ให้กับประเทศรายได้ต่ำ ได้แก่ ซูดาน (357,600 โดส) เอธิโอเปีย (217,200 โดส) อัฟกานิสถาน (213,600 โดส) ทาจิกิสถาน (100,800 โดส) และอุซเบกิสถาน (355,200 โดส) ทั้งนี้ วัคซีนของ บริษัท AstraZeneca ไม่เป็นที่นิยมในเยอรมนี จากความกังวลการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน โดยเยอรมนีสำรองวัคซีนดังกล่าวกว่า 17.5 ล้านโดส ในจำนวนนี้หมดอายุแล้วมากกว่า 10,000 โดส คงเหลือกว่า 5 ล้านโดส อนึ่ง เยอรมนีตั้งเป้าหมายบริจาควัคซีนของ บริษัท AstraZeneca และ บริษัท Johnson…

กัมพูชาเตรียมอนุญาตให้แรงงานกัมพูชาที่ตกค้างบริเวณชายแดนไทยเดินทางเข้าประเทศ

หนังสือพิมพ์ Khmer Times รายงานเมื่อ 10 ส.ค.64 อ้างถ้อยแถลงของ นายซอ เค็ง รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ระหว่างการประชุมทางไกล เมื่อ 9 ส.ค.64 ระบุว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้แรงงานกัมพูชาที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเดินทางเข้าประเทศได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขโดยกักตัว 14 วัน ตรวจหาเชื้อ และส่งกลับภูมิลำเนาหากพบว่าไม่ติดเชื้อ COVID-19 ก่อนหน้านี้ กลุ่มองค์กรภาคประชาชน Centre for Alliance of Labour and Human Rights (CENTRAL) เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้แรงงานกัมพูชาซึ่งปัจจุบันปักหลักอยู่ในพื้นที่ป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาสามารถเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากกลุ่มแรงงานขาดแคลนน้ำสะอาด และไฟฟ้า อนึ่ง แรงงานกัมพูชาทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายต้องการเดินทางกลับกัมพูชาเนื่องจากกังวลการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดลตาในไทย

แขวงจำปาสัก ลาว จะนำยาสมุนไพรมาใช้รักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19

เว็บไซต์ สำนักข่าว Laotian Times รายงานเมื่อ 10 ส.ค.64 ว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุข แขวงจำปาสัก อยู่ระหว่างการพิจารณานำยาสมุนไพรมารักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 หลังจากเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนยาแผนปัจจุบัน ซึ่ง เจ้าหน้าที่หวังว่ายาสมุนไพรจะเป็นทางเลือก และสามารถใช้รักษาผู้ติดเชื้อร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ สอดคล้องกับท่าทีของนายวิไลวง บุดดาคำ เจ้าแขวงจำปาสัก ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่ควรเร่งดำเนินการใช้ยาสมุนไพรรักษาผู้ติดเชื้อ อาทิ การใช้สารสกัดจากกระชาย เป็นต้น อีกทั้งกล่าวว่าหลังจากใช้ยาสมุนไพรรักษาผู้ติดเชื้อ ควรรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพยาสมุนไพรซึ่งผลิตในลาว เพื่อพัฒนาต่อยอดในอนาคต

เกาหลีเหนือออกแถลงการณ์โจมตีสหรัฐฯ และเกาหลีใต้กรณีการฝึกซ้อมรบร่วม

สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานเมื่อ 10 ส.ค.64 อ้าง สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือว่า นางสาวคิม ยอ-จ็อง น้องสาวผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์โจมตีสหรัฐฯ และเกาหลีใต้กรณีการฝึกซ้อมรบร่วมระหว่าง 10-26 ส.ค.64 ว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องปรามและตอบโต้ภัยคุกคามจากสหรัฐฯ โดยการฝึกซ้อมรบดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อเกาหลีเหนือ และส่งผลให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเลวร้ายลง แม้จะเป็นการฝึกจำลองสถานการณ์ทางคอมพิวเตอร์และลดขนาดจำนวนทหารที่เข้าร่วม และยังสะท้อนความไม่จริงใจของสหรัฐฯ ซึ่งใช้วิธีทางการทูตและการเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขเป็นการอำพรางเจตนารุกรานเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือยังคงยึดมั่นต่อนโยบายดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับ (power for power and goodwill for goodwill) นอกจากนี้ เกาหลีเหนือเรียกร้องให้สหรัฐฯ ถอนกองกำลังและยุทโธปกรณ์ทางทหารออกจากเกาหลีใต้ รวมถึงกล่าวหาว่าเกาหลีใต้ขี้ขลาด ขณะที่กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุจะติดตามท่าทีของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดและไม่ต้องการสร้างความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ก่อนหน้านี้ นางสาวคิม ยอ-จ็อง ออกแถลงการณ์ เมื่อ 1 ส.ค.64 เตือนเกาหลีใต้ให้ระงับการฝึกซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบความสัมพันธ์สองเกาหลีที่มีแนวโน้มเชิงบวกหลังรื้อฟื้นช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างกัน

ฮ่องกงอาจบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรต่างชาติของจีน

หนังสือพิมพ์ South China Morning Post  รายงานเมื่อ 10 ส.ค.64 นางแคร์รี่ ลัม หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงระบุว่า ฮ่องกงควรบังคับใช้กฎหมายเพื่อต่อต้านการคว่ำบาตรต่างชาติของจีน เพื่อป้องกันไม่ให้ต่างชาติบั่นทอนสถานะการเป็นศูนย์กลางการเงินของฮ่องกง โดยสภาประชาชนแห่งชาติจีนจะประชุมพิจารณาการบังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวในธรรมนูญของฮ่องกงและมาเก๊า ที่กรุงปักกิ่งระหว่าง 17-20 ส.ค.64  อย่างไรก็ดี ฮ่องกงจะยังไม่บังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวทันทีเช่นเดียวกับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกง ทั้งนี้ จีนผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าวเมื่อ 10 มิ.ย.64 เพื่อใช้ตอบโต้สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานสากล ที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรของจีนและฮ่องกงที่ละเมิดเสรีภาพประชาชนในเขตปกครองตนเองทิเบต เขตปกครองตนเองซินเจียง และฮ่องกง

เวียดนามจะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 อีก 600,000 โดสไปยังนครโฮจิมินห์

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ VnExpress International รายงานเมื่อ 9 ส.ค.64 ว่า สถาบันเสาวภาของเวียดนามจะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของบริษัท AstraZeneca ไปยังนครโฮจิมินห์ 600,000 โดส หลังจากนครโฮจิมินห์ได้รับวัคซีนแล้ว 2.97 ล้านโดส เพื่อฉีดให้แก่ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้อพยพและชาวต่างชาติ ทั้งนี้ เวียดนามได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่ประชาชนในนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดเพียง 991,322 คน และเข็มที่ 2 จำนวน 48,107 คน ขณะที่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งเวียดนาม เสนอให้ระงับเที่ยวบินเส้นทางระหว่างฮานอย-นครโฮจิมินห์ทุกเที่ยวบิน หลังจากระงับเที่ยวบินเส้นทางนครโฮจิมินห์-ฮานอยแล้ว สำหรับยอดผู้ติดเชื้อของเวียดนามใน 9 ส.ค.64 อยู่ที่ 9,340 คน เสียชีวิต 360 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในนครโฮจิมินห์ 269 คน ทำให้เวียดนามมีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่พบการแพร่ระบาด COVID-19 เมื่อต้นปี 2563 จำนวน 3,757 คน